วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

[Crossover ROTG*Frozen Fanfic] Jack Frost is coming to Arendelle




ฟ้ายังไม่ทันสางดี ราชินีแห่งเอเรนเดลล์ก็มีอันต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงประตูเปิดปัง เธอพยายามฝืนเปลือกตาขึ้นมอง หากทว่าดูเหมือนมันช่างทำได้ยากเย็นเหลือเกิน “เอลซ่า!” เสียงสดใสของอันนาดังขึ้นอยู่ข้างเตียง ยิ่งพอรู้ว่าเป็นน้องสาวของตนแล้ว ก็ดูเหมือนว่าเปลือกตาจะหนักอึ้งยิ่งกว่าเดิม ความตระหนกก่อนหน้านี้จางหายไปอย่างรวดเร็ว และเอลซ่าก็มุดตัวลงใต้ผ้าห่มหลบหนีจากความพยายามปลุกเธอของน้องสาว
ผ้าห่มถูกกระชากออกไป อากาศหนาวเย็นพรมลงบนร่าง ถึงแม้เธอจะเป็นราชินีหิมะ ความหนาวเย็นทำอะไรเธอไม่ได้ แต่เอลซ่าก็ยังชอบสถานที่อบอุ่นอยู่ดี มือเรียวบางควานหาผ้าห่มที่ถูกแย่งไป แต่สิ่งที่ยื่นมาจับคือมืออุ่นๆ ของอันนา
หลังจากนั้นน้องสาวก็ดึงตัวเธอให้ลุกขึ้นนั่ง เอลซ่าจึงจำต้องตื่นด้วยประการฉะนี้เอง


“สุขสันต์วันอีฟ!
ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ผู้คนแต่งกายด้วยอาภรณ์หนาอุ่นมีสีสัน ร้านรวงประดับประดาตกแต่งให้เข้ากับงานเทศกาล แม้กระทั่งพระราชวังเองก็เช่นกัน เอลซ่ามองลงไปจากระเบียงกว้าง ถึงแม้อากาศจะหนาวเย็นด้วยลมสิ้นปี แต่ก็ไม่มีใครยี่หระกับมันแม้แต่คนเดียว
เอเรนเดลล์เป็นเมืองหนาว เพราะฉะนั้นเทศกาลฤดูหนาวอย่างคริสต์มาสจึงนับว่าเป็นเทศกาลใหญ่ บ้านทุกหลังตกแต่งสวยงาม ปล่องไฟถูกเช็ดถูทำความสะอาดเตรียมต้อนรับซานตาคลอส กลิ่นหอมของขนมเค้กและช็อคโกแล็ตลอยอบอวล
ที่ลานกลางหมู่บ้านนั่น...เด็กน้อยคนหนึ่งกำลังถือถาดใบใหญ่ที่บรรจุคุกกี้หน้าตาน่ารักเอาไว้จนเต็ม ขนาดของถาดใหญ่เสียจนเด็กน้อยต้องกางแขนออกจนสุดเพื่อจับขอบทั้งสองด้านของมัน ดูทุลักทุเลแต่เมื่อได้เห็นสีหน้ามุ่งมั่นพยายามนั่นแล้วก็รู้สึกว่า...น่ารักมาก
รู้ตัวอีกทีเอลซ่าก็พบว่าเธอกำลังเอาใจช่วยเด็กน้อยคนนั้นโดยไม่รู้ตัว
“อ๊ะ!?” หญิงสาวอุทานเมื่อลมหอบใหญ่พัดมาจนร่างเล็กๆ นั้นเซซวนจวนล้ม ถาดใบใหญ่เอียงกะเทเร่ตามไปด้วย มือเรียวบางยื่นออกไปข้างหน้า ก่อนที่เด็กน้อยจะล้มก้นจ้ำเบ้า หิมะนุ่มฟูราวกับเบาะก็พูนขึ้นอย่างไร้ที่มา รองรับร่างนั้นเอาไว้ได้ทันท่วงที คุกกี้ทุกชิ้นอยู่รอดปลอดภัยในถาด
ชาวบ้านรอบข้างดูจะตกอกตกใจกับเหตุการณ์นี้ แต่มันเกิดขึ้นเร็วเกินไปและไม่มีใครทันได้ขยับตัวทำอะไร หญิงคนหนึ่งที่ดูจะเป็นแม่เด็กวิ่งเข้ามาหาลูกน้อยด้วยความเป็นห่วง แต่เมื่อเห็นร่องรอยของหิมะบนพื้นแล้วเธอก็อดไม่ได้ที่จะมองมายังปราสาท
บนระเบียงมีเพียงบานหน้าต่างที่เปิดกว้าง ไม่มีแม้แต่เงาของใครสักคน
เธอมองกองหิมะบนพื้นที่เสียรูปไปจากเดิมเล็กน้อย และเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ถึงแม้ปีนี้อากาศจะเย็นจัด...แต่หิมะก็ยังคงไม่ตกลงมาแม้แต่เกล็ดเดียว


แจ็ค! เลิกแกล้งเด็กๆ ของข้าได้แล้ว!” นอร์ธหันไปแว้ดใส่อย่างหมดความอดทนเมื่อแจ็คฟรอสต์ที่อาสามาช่วยงานอย่างขันแข็งผิดปกติวิสัยจอมป่วนเอาแต่เสกหิมะก้อนเบอเริ่มไล่ทับลูกน้องของเขา... นี่มันแจ็คฟรอสต์จอมป่วนตัวจริงเสียงจริง เห็นได้ชัดว่าถึงแม้จะมีตำแหน่งผู้พิทักษ์แล้วเจ้าตัวก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่เอาน่า แจ็คโหนตัวจากบนเครื่องสร้างของเล่นเครื่องหนึ่งลงมาจนเกือบถึงพื้น นอร์ธทำตาโตเพราะพื้นข้างล่างน่ะเต็มไปด้วยของเล่นที่ยังไม่ได้ห่อของขวัญทั้งนั้น บางชิ้นสียังไม่ทันแห้งด้วยซ้ำ ตกลงแจ็คมันจะมาช่วยเขาทำงานหรือช่วยทำยุ่งกว่าเดิมกันแน่!
ทว่าถึงแจ็คจะป่วนยังไงแต่ก็ยังไม่ได้ร้ายถึงขนาดจะเหยียบลงบนแก้วตาดวงใจของเพื่อนได้ลงคอ มือเรียวคว้ากิ่งสนเอาไว้แล้วห้อยต่องแต่งอยู่เหนือพื้น มืออีกข้างกวาดออกไปให้สายลมหอบของเล่นหย่อนลงในกล่อง ตุ๊กตา เกม ขนม เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับและสารพัดข้าวของประดามีทั้งหลายถูกเนรมิตรขึ้นมา ในเวลาเพียงพริบตาของเล่นทั้งหมดก็ถูกหอบลงกล่อง เยติจัดการแบ่งของขวัญใส่ลงถุงสีแดงสด แล้วยกไปวางไว้ที่รถเลื่อนประจำตำแหน่ง
แจ็คหัวเราะลั่น ขณะที่นอร์ธสบถอุบเรื่องที่อีกฝ่ายเกือบทำเขาหัวใจวายตาย
...ปีนี้ซานต้าคลอสก็ยังคงงานยุ่งเช่นเคย...  

เฮ้! ท่าทางปีนี้นอร์ธจะยุ่งจนหัวหมุนจริงๆ ถึงได้ยอมให้ข้าช่วยออกมาส่งของขวัญให้เด็กๆ เนี่ย เจ้าว่างั้นมั้ย?” แจ็คตะโกนถามดวงจันทร์บนท้องฟ้า แน่นอนว่ามีเพียงความเงียบตอบกลับมา โชคดีที่แจ็คไม่ได้ต้องการคำตอบอยู่แล้ว ดึกดื่นเที่ยงคืนเต็มที เขาจึงเร่งสายลมให้โหมพัดแรงขึ้น พาตนเองข้ามผืนน้ำกว้างไกลสุดสายตา
มือเรียวยาวควานไปด้านหลังหยิบแผนที่ออกมาเช็คดูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะกลับไปยังรังของนอร์ธ  เอ่อ ตะวันตก ตะวันตกเรียบร้อย ตะวันตกเฉียงเหนือเรียบร้อย สุดท้าย...เหนือ เพิ่งผ่านไป เรียบร้อย!” แจ็คยิ้มกว้างก่อนจะโยนแผนที่ลงไปในถุงบรรจุของขวัญอันว่างเปล่า
...หรืออันที่จริงแล้วน่าจะบอกว่า ควรจะว่างเปล่า
หือ? ในถุงใบใหญ่ที่พาดอยู่บนบ่ายังมีอะไรบางอย่างบรรจุอยู่ แจ็คฟรอสต์เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ เขาค่อนข้างมั่นใจว่าตนเองทำงานส่งของขวัญได้เรียบร้อย ไม่ได้ตกสำรวจเด็กบ้านไหนไป แต่เมื่อลองเปิดถุงออกมาแล้วก็พบว่ายังมีกล่องของขวัญเหลืออยู่อีกใบจริงๆ
แจ็คหยิบกล่องใบนั้นมาพลิกดู อันที่จริงแล้วเขาก็ไม่ใช่คนความจำดีนัก แต่ไม่ว่าจะพลิกหน้าพลิกหลังดูยังไงแล้ว...กล่องใบนี้ก็ไม่เคยปรากฏในความทรงจำของเขามาก่อน และไม่ทราบเช่นกันว่าด้วยเหตุใด...อาจจะเป็นเพราะเขาเองก็เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์กระมัง แจ็คจึงค่อนข้างมั่นใจว่ากล่องใบนี้ไม่ใช่ของนอร์ธ...,มันไม่เหมือนกัน ของขวัญของนอร์ธจะแฝงไว้ด้วยความรื่นเริงสนุกสนาน มีความเข้มแข็ง มีกลิ่นอายของต้นสน เป็นสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่สัมผัสได้ถึงความแตกต่าง เป็นของขวัญงานเทศกาลโดยแท้จริง
กล่องของขวัญในมือแจ็คเป็นสีฟ้า...อ่อนจางจนแทบเป็นสีขาว เหมือนสีของหิมะ เหมือนสีของน้ำแข็ง เป็นสีที่แจ็คคุ้นเคยดี แต่ขณะเดียวกัน...มันก็แฝงไว้ด้วยบางสิ่ง...
กล่องของขวัญใบนี้ให้ความรู้สึกเย็น... เย็นราวกับว่ามันจมอยู่ใต้ธารน้ำแข็งมาเนิ่นนาน... เขายอมรับว่ามันสวยงาม สงบ ทว่าช่างเปลี่ยวดายจนชวนให้นึกถึงอดีตเมื่อครั้งยังไม่มีใครมองเห็น...
แต่นั่นเป็นเพียงอดีต
แม้จะไม่มีใครยอมรับ แม้จะไม่มีใครมองเห็น แต่หิมะของเขาก็เต็มไปด้วยความรื่นเริงสนุกสนาน หิมะของเขาสร้างเสียงหัวเราะ สายลมของเขาทำให้รอยยิ้มผลิบาน...สิ่งเหล่านั้นเป็นความอบอุ่นท่ามกลางความหนาวเย็น เพื่อเฝ้ารอดวงตะวันยามไม้ผลิใบ เพื่อขับเคลื่อนให้ฤดูกาลผันเปลี่ยนไป
แต่สิ่งนี้...กล่องของขวัญในมือนี้...ราวกับติดอยู่ในฤดูหนาวตลอดกาล
“.........ใครเป็นเจ้าของของขวัญกล่องนี้กัน?...” แจ็คฟรอสต์เงยหน้าขึ้นถามดวงจันทร์
...ทว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเขากลับเป็นแสงไฟ...จากเมืองเมืองหนึ่ง...


แจ็คฟรอสต์ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าเมืองนั้น  ก้มมองลงไปอย่างประหลาดใจ บ้านเมืองเบื้องล่างดูสวยงามประหลาดตา แต่ขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายของอารยะที่เขาไม่คุ้นเคย ทว่าเมื่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ดวงจันทร์ก็ยังคงเป็นดวงเดิมกับที่เขาเคยรู้จัก “เฮ้” แจ็คลองส่งเสียงร้องเรียก แต่ดวงจันทร์ก็ยังคงทอแสงอ่อนละมุนลงมาอย่างเงียบงันเช่นเคย
ผู้พิทักษ์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ยังไงเสียคืนนี้งานของเขาก็เสร็จแล้ว จะใช้เวลาที่เหลือเล่นอยู่ที่นี่ก็ไม่ส่งผลกระทบอะไรกับเด็กๆ หรอก
เมื่อตัดสินใจได้ดังนั้นแล้วแจ็คจึงพาตัวเองเข้าไปในตัวเมือง เขาลอยผ่านบานหน้าต่างหลายบาน ผ่านบ้านหลายหลัง นอกจากแสงไฟในเตาผิงที่จุดขึ้นเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นในยามหลับแล้ว ทุกอย่างก็ตกอยู่ท่ามกลางการหลับใหลเงียบงัน
แจ็คยิ้มกับตัวเองอย่างเงียบๆ แล้วผละออกมาจากหน้าต่างของบ้านหลังหนึ่ง เขาให้สายลมพัดพาตัวเองขึ้นสูงเหนือหลังคา ไม่ไกลจากที่เขาอยู่มีหอระฆัง แจ็คจึงอาศัยที่นั่นเป็นสถานที่หยุดพักและดื่มด่ำกับความงดงามเงียบสงบราวกับต้องมนตร์ขลัง ถึงเขาจะเป็นผู้นำความสนุกสนานมาสู่เด็กๆ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจความสงบอะไรนี่
จากบนยอดหอระฆังนั้นเอง...แจ็คก็มองเห็นหน้าต่างบานหนึ่งที่มืดสนิท...ไร้ซึ่งแสงไฟ...
เสียงบางอย่างดังขึ้น...อาจจะเป็นเสียงของดวงจันทร์ หรือบางทีอาจจะเป็นเสียงจากตัวเขาเอง แต่ไม่ว่าเสียงนั้นจะมาจากไหน แจ็คก็พบว่าตนเองมาหยุดอยู่หน้าหน้าต่างบานนั้นเสียแล้ว แจ็คกอดอกเอียงคอมองบานหน้าต่างที่มืดสนิท พลางขมวดคิ้วมุ่นเมื่อพบว่าเจ้าของห้องนั้นปิดผ้าม่านเสียมิดชิดจนไม่อาจแอบมองเข้าไปได้
ถ้าเป็นปกติ...แจ็คคงไม่สนใจแล้วบินไปหาอะไรอย่างอื่นที่น่าสนุกทำ แต่ทว่าค่ำคืนนี้ดูเหมือนจะห่างไกลจากคำว่าปกตินัก เขามองขึ้นไปด้านบน เห็นปล่องไฟที่ไร้ควันอยู่เหนือหน้าต่างบานนั้น น่าจะเป็นปล่องไฟของห้องที่ดึงดูดความสนใจของเขาอย่างไร้เหตุผล  ดังนั้นแล้ว...แจ็คจึงให้สายลมพาตนเองขึ้นไป
อันที่จริงการหย่อนตัวเองลงไปในปล่องไฟไม่ใช่วิสัยปกติของแจ็คสักเท่าไหร่ แน่ล่ะ ก็เขาไม่ใช่ซานต้าคลอสต์นี่ ถึงวันนี้จะทำหน้าที่แทนในบางพื้นที่ก็เถอะ แต่แจ็คก็พบว่าเขาทำได้ไม่เลวเลย
เขาห้อยหัวอยู่กลางอากาศ โผล่แต่ลูกกะตาออกมาจากกรอบเตาผิง ภายในห้องมืดมาก ผ้าม่านหนาสีเข้มทำให้แสงจันทร์มิอาจเล็ดรอดผ่านเข้ามา  แจ็ครู้สึกเพียงแต่ว่าภายในห้องมืดเกินไป แต่ทั้งๆ อย่างนั้น...เขากลับมองเห็น
ผ่านไปหลายวินาทีแจ็คจึงตระหนักถึงเรื่องนั้น เขามองสำรวจโดยรอบอย่างละเอียด กลับตัวลงมายืนบนพื้นพรมหนานุ่มของห้องกว้างด้วยฝีเท้าเงียบกริบ ภายในห้องมืดนั้น...มีเกล็ดละอองเล็กๆ สะท้อนแสงแวววามส่องสว่างท่ามกลางความมืด เกล็ดนั้นโปรยปรายจากความว่างเปล่า ร่วงหล่นลงบนผืนพรม แล้วก็จางหายไปท่ามกลางความว่างเปล่าเช่นเดียวกัน นั่น...ดูราวกับ...
เกล็ดแวววามนั้นร่วงลงมากระทบใบหน้าของเขา มันให้ความรู้สึกเย็น...และคุ้นเคย
...หิมะ...
เป็นหิมะที่ส่องประกาย
แจ็คเงยหน้า แบมือออกไปรับเกล็ดหิมะที่ร่วงหล่นลงมา ดวงตาเบิกกว้างอย่างประหลาดใจ ผู้ที่มักเป็นฝ่ายสร้างความประหลาดใจให้ผู้อื่น เวลานี้กลับได้แต่นิ่งงันเสียเอง
ค่ำคืนนี้ช่างน่าประหลาด หรือเพราะเป็นคืนคริสมาสต์กันนะ คืนที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง ความยินดี และการก่อกำเนิดหวนคืน
แค่กเสียงไอเบาๆ ดังขึ้นเรียกให้แจ็คสะดุ้งสุดตัว เขาเบิกตากว้าง รู้ตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองกำลังบินสูงจนหัวแทบโขกเพดานห้อง ดวงตาสีอ่อนมองลงมาและพบว่าอีกด้านหนึ่งของห้องมีเตียงกว้างหลังหนึ่งตั้งอยู่...เสียงดังมาจากตรงนั้นเอง
แจ็คถอนหายใจ นึกขำตัวเองที่ดันตกใจเสียใหญ่โต ยังไงซะเจ้าของห้องนี้ก็คงมองไม่เห็นเขา ไม่รู้จะตกใจไปทำไม
ด้วยความสงสัย...แจ็คฟรอสต์จึงลอยเอื่อยๆ ไปทิ้งตัวตุบลงบนพื้นพรมข้างเตียง ก้มลงมองมนุษย์ที่ส่งเสียงจนทำให้เขาตกใจแทบตายเมื่อครู่นี้
...แล้วเขาก็นิ่งไป...
แจ็คข้ามผ่านหิมะแรกของฤดูกาลมาหลายร้อยครา ได้เห็นอะไรมามากมายทั้งสิ่งที่สวยงาม ทั้งสิ่งทีอัศจรรย์ และปาฏิหาริย์.
...แต่เขาไม่เคยพานพบความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน...
เหมือนทุกสิ่งกลายเป็นสีขาวโพลน
สิ่งที่ทำให้เขาเกิดความรู้สึกเช่นนั้นขึ้นเป็นมนุษย์คนหนึ่ง...เขาแน่ใจว่านางเป็นมนุษย์ แม้จะมีบางสิ่งที่ต่างออกไป แต่ยังไม่ทันได้วิเคราะห์ว่าสิ่งนั้นคืออะไร เปลือกตาบางที่ปิดสนิทจนถึงเมื่อครู่นี้ก็พลันขยับเล็กน้อย แล้วจึงปรือเปิดขึ้น...
...เป็นสีฟ้าที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา...
...แต่ก็เป็นสีฟ้าที่เศร้าที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาด้วยเช่นกัน...
ในอกพลันปวดหนึบ แจ็คยื่นมือออกไปแตะแก้มขาวของอีกฝ่ายเบาๆ แม้จะรู้ดีว่ามนุษย์ที่เป็นผู้ใหญ่แล้วไม่มีทางเห็นตนก็ตาม
สัมผัสจากอีกฝ่ายให้ความรู้สึกเหมือนปุยหิมะ เนียนละเอียดและอ่อนนุ่ม
.........
...เดี๋ยวนะ...
แจ็คมองดวงตาสีฟ้าที่เบิกกว้าง ความตื่นตระหนกเข้ามาแทนที่ความง่วงงุน  แก้มเย็นๆ ของอีกฝ่ายยังคงให้สัมผัสอ่อนนุ่มอยู่ใต้ปลายนิ้ว...แต่...ทำไมเขาถึงสัมผัสนางได้ล่ะ...?
จ..เจ้าเป็นใคร!?...เสียงของนางเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่นั่นยังไม่ได้ทำให้แจ็คตกใจเท่าหอกน้ำแข็งแหลมคมหลายเล่มที่ผุดขึ้นมาจากพื้น ก่อนที่มันจะเสียบคอของเขาเข้า แจ็คก็อาศัยความว่องไวกระโดดถอยห่างออกไป ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก แจ็คไม่เคยเจอผู้ใหญ่ที่มองเห็นเขามาก่อน ส่วนเอลซ่าเองก็ไม่เคยถูกคนแปลกหน้าบุกรุกถึงห้องบรรทมมาก่อนเช่นกัน
เอ่อ... แจ็คก้าวเท้าเข้าไปหา คิดแต่เพียงว่าต้องอธิบายให้อีกฝ่ายไม่เข้าใจผิดเสียก่อน แต่ทว่าปฏิกิริยาของหญิงสาวกลับเป็นการสะดุ้งสุดตัว ตื่นตระหนกราวกับสัตว์เล็กๆ เสียจนแม้กระทั่งเขายังพาลตกใจตามไปด้วย
ร่างบอบบางผุดลุกจากเตียงหนีไปอีกฝั่ง หันมาจ้องเขาด้วยดวงตาสีฟ้ากลมโตพลางขู่ อย่าเข้ามานะ!”
แจ็คยกสองมือขึ้นเป็นเชิงบอกว่ายอมแพ้และแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าตนไม่มีอาวุธ ใจเย็นสาวน้อย ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายนะ
ดวงตาสีฟ้าสวยงามหรี่ลง สีหน้าบ่งบอกว่าไม่เชื่อสิ่งที่คนแปลกหน้าเอ่ยออกมาแม้สักกระผีก แจ็คเกาหัวแกร่กๆ อย่างจนใจ เขาไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการรับมือกับผู้หญิงที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับกระต่ายแบบนี้สักเท่าไหร่...ถึงแม้ใกล้ๆ ตัวเขาจะมีทั้งผู้หญิง(ทูธน่าจะนับว่าเป็นผู้หญิงได้นะ...ใช่มั้ย?) และกระต่าย(...โหด โฉด เถื่อน)ก็เถอะ
สิ่งที่อยู่ในมือเจ้าคืออะไร?
มือ? แจ็คเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ในที่สุดว่าอันที่จริงแล้วมือที่ชูให้ดูเมื่อครู่นี้ไม่ได้ว่างเปล่าอย่างที่ตนคิด ถุงใส่ของขวัญ... ติดมาโดยที่เขาไม่รู้ตัวสักนิด
อ้อ...ถุงใส่ของขวัญน่ะ...ข้าเป็น...เป็น...อื้ม...สำหรับคืนนี้ ข้าคือซานต้าคลอสต์ไงล่ะ!” ไม่ได้โกหกนะ
...หลังจากนั้น เมื่อมาคิดๆ ดูในภายหลังแล้ว...แจ็คที่แสนจะหัวช้าและทึ่มทื่อก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า บางทีเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ใช่ความบังเอิญ
ไม่ใช่ความบังเอิญที่มีกล่องชองขวัญปริศนาเหลืออยู่ในถุงแจกของขวัญของนอร์ธ
ไม่ใช่ความบังเอิญที่เขามาปรากฏตัวที่นี่...ที่เมืองนี้
ไม่ใช่ความบังเอิญที่เขาถูกดึงดูดด้วยบานหน้าต่างที่มืดมิด ปิดสนิทและไร้ซึ่งแสงไฟ
...ไม่ใช่ความบังเอิญ...ที่เขาได้พบกับนาง...
แต่นั่นเป็นเรื่องในกาลหลัง ตอนนี้เขาควรเอาตัวให้รอดก่อนดีกว่า
หอกน้ำแข็งแหลมคมผุดขึ้นจากพื้นมาจ่ออยู่ปลายจมูกของเขา นางยังไม่คลายท่าทีหวาดระแวง บ่งบอกชัดเจนว่าไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดแม้แต่น้อย แจ็คไม่มีท่าทีครั่นคร้ามต่อสิ่งที่กำลังจะแทงเขาทะลุอยู่แล้วแม้แต่น้อย เห็นแบบนี้แต่เขาก็เป็นผู้พิทักษ์นะ อีกอย่าง...เขาตายไปแล้ว ถ้าโดนมนุษย์ฆ่าซ้ำอีกทีก็คงน่าขายหน้าไปหน่อยล่ะ
ถึงแม้เธอผู้นี้จะมีอะไรบางอย่างที่แตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปก็ตาม
ข้าแนะนำตัวไปแล้วนะ แจ็คยิ้ม มือข้างที่ไม่ได้ถือถุงของขวัญยื่นไปแตะเบาๆ บนปลายของแท่งน้ำแข็ง มันสั่นเล็กน้อย...เหมือนกำลังจะ......จาม?
ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้อง แท่งน้ำแข็งของเธอก็ จาม ออกมา เสียงที่ก้องสะท้อนคือเสียงของสายลมที่พัดหวีดหวิว แล้วแท่งน้ำแข็งที่เธอเสกออกมาก็กระจักกระจาย เป็นหิมะที่ลอยขึ้นสูง เป็นเกล็ดผลึกที่ตกลงบนพื้นพรม และขณะที่กำลังตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูกอยู่นั้นเอง ร่างของชายแปลกหน้าก็พลัน...ลอย?
เอลซ่าเบิกตากว้างอย่างตกใจ เรียวขาเล็กบอบบางก้าวผงะไปด้านหลัง หากทว่าถึงแม้ห้องบรรทมของราชินีจะกว้างขวางสักแค่ไหน แต่ก็ยังเป็นเพียงแค่ห้องห้องหนึ่ง จะมีพื้นที่สำหรับหนีสักกี่มากน้อยกันเชียว
พริบตาต่อมาเอลซ่าก็พบว่าข้างหลังของตนเป็นกำแพง ไม่มีที่ให้หนีแล้ว คนแปลกหน้ากำลังลอยเข้ามาหา...ไม่ได้รวดเร็วจนเป็นการจู่โจม แต่ก็น่าขนลุกสิ้นดี
สองมือยื่นไปข้างหน้า สร้างปราการน้ำแข็งบางใสขึ้นมากางกั้นแม้จะตระหนักดีอยู่แล้วว่ามันไม่สามารถทำอะไรคนตรงหน้าได้ ซึ่งจะว่าไปแล้วเอลซ่าก็เพิ่งเคยพบกับคนที่รับมือกับพลังที่เปรียบดั่งคำสาปของเธอได้เป็นครั้งแรกเช่นกัน แต่หญิงสาวก็หวังว่าอย่างน้อยมันก็น่าจะประวิงเวลาเอาไว้ได้สักพัก... ท..ทหา----!...อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีใครมา...
เสียงเล็ดรอดไปเพียงแผ่วเบา แทบไม่พ้นลำคอด้วยซ้ำ แล้วชายตรงหน้าก็พุ่งเข้ามาเอาอุ้งมือตะปบปากของเธอเอาไว้ กิริยาจาบจ้วงไร้มารยาททำให้ราชนิกุลสูงศักดิ์ถึงกับสะดุ้งสุดตัว เขา ‘บิน’ ผ่านน้ำแข็งของเธอมาได้ราวกับมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นเสียด้วยซ้ำ ทำให้มันกลายเป็นปุยหิมะและเกล็ดน้ำแข็งเหมือนกับอาวุธก่อนหน้านี้
ชู่วววเขาแตะนิ้วลงบนริมฝีปากของตัวเอง ฉีกยิ้มอย่างที่(คิดเอาเองว่า)ดูอบอุ่น น่าไว้วางใจเป็นที่สุด ถ้าถูกเจอเข้าล่ะก็...ปีหน้าเจ้าจะไม่ได้ของขวัญจากซานตาคลอสนะ!”
เจ้าไม่ใช่ซานตาสักหน่อย” หญิงสาวสะบัดหน้าหนีมืออีกฝ่าย ใช้ดวงตาสีฟ้าสวยจ้องเขม็งพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ฟังดูดุดันน่ากลัวที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ซานตาให้ของขวัญแต่เด็กๆ ที่แขวนถุงเท้าเอาไว้หน้าเตาผิง ซึ่งหนึ่ง เราไม่ได้แขวน และสอง เราไม่ใช่เด็ก!”
แจ็คคิดว่าท่าทางแบบนั้นของหญิงสาวตรงหน้านี่ล่ะที่เด็กที่สุด แต่ก็..........น่ารักที่สุดเช่นกัน
..................................
............................
...เอ๊ะ เดี๋ยวนะ...
“มีแต่เด็กเท่านั้นล่ะ ที่บอกว่าตัวเองไม่เด็กด้วยท่าทางแบบนั้นน่ะ” ก่อนที่จะทันประมวลผลทันว่าเมื่อครู่นี้ตนเองเพิ่งคิดอะไรไป ปากเจ้ากรรมก็เผลอหลุดประโยคที่ควรจะแค่คิดอยู่ในใจออกมา
ใบหน้าสวยงามที่แฝงแววเย่อหยิ่งไม่ยอมแสดงความหวาดกลัวออกมาพลันง้ำงอ “เจ้า...!!” นางตวัดมือสร้างหอกน้ำแข็งขึ้นมาหมายพุ่งเข้าเสียบชายที่อยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าเพียงแค่โบกมือเบาๆ อาวุธที่เต็มไปด้วยความอันตรายนั้นก็สลายหายไป แต่นั่นก็ทำให้แจ็คหัวเราะพลางกระโดดออกห่างจากเธอเล็กน้อย อันที่จริงพลังของสาวน้อยตรงหน้าแข็งแกร่งไม่เลวเลย...เพียงแต่...ชั่วโมงบินของพวกเขามันผิดกันเยอะก็เท่านั้นเอง
อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นผู้พิทักษ์มานาน...หรือจะด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ ทว่าแจ็คก็รู้ว่าสีหน้าเช่นนี้ต่างหากที่เป็น ‘ใจกลาง’ ของน้ำแข็งอันแหลมคม น้ำแข็งที่เป็นเหมือนเปลือกนอกของกล่องของขวัญ...สวยงาม สงบ และเปลี่ยวดาย...หากเมื่อเปิดมันออกมาแล้ว...
...ก็คงมีเพียงแค่เจ้าของมันเท่านั้นที่จะรู้ว่าสิ่งที่อยู่ข้างในคืออะไร...
..........
อ้อ...อย่างนี้นี่เอง
“.........ใครเป็นเจ้าของของขวัญกล่องนี้กัน?...”
ดวงจันทร์ไม่ได้เพิกเฉยต่อคำถามของเขา และคำตอบของคำถามนั้นก็เด่นชัดอยู่ตรงหน้า
แจ็คจ้องมองอีกฝ่าย แล้วเขาก็ยิ้มออก “เป็นเจ้านี่เอง...”
มือเรียวหยิบกล่องของขวัญออกมาจากถุง เขาก้มมองดูมันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ได้แต่มองมาอย่างงุนงง มือเรียวใหญ่ยื่นกล่องของขวัญสีฟ้าจางสวยงามมาตรงหน้า เอลซ่าก้มลงมอง หากทว่าไม่กล้าที่จะยื่นมือออกไปรับ ถึงเขาจะไม่มีทีท่าว่าจะคุกคามอะไร(นอกจากการแอบเข้ามาในห้องของสุภาพสตรีเวลากลางค่ำกลางคืน) อีกทั้งยัง...เห็นได้ชัดว่าเขามีพลังมากกว่าเธอ เอลซ่าไม่เคยพบใครที่มองพลังของเธอราวกับว่ามันเป็นของเด็กเล่นเช่นนี้มาก่อน ถ้าเขาจะทำร้ายเธอ นั่นย่อมไม่ใช่เรื่องยากเย็นเลย แต่...การจะให้ยอมรับของจากคนแปลกหน้า(ที่รอยยิ้มของเขาช่างไม่น่าไว้ใจสิ้นดี...และ...ถึงจะไม่ค่อยอยากยอมรับสักเท่าไหร่นักก็ตาม เอลซ่าก็ต้องจำนนต่อความจริงว่าเขาเหนือกว่าเธอจนน่าเจ็บใจ)ก็ค่อนข้างต้องอาศัยความกล้าสักหน่อยอยู่ดี
หลังจากผ่านความเงียบอันน่าอึดอัดและเกมจ้องตากันสักพักแล้ว แจ็คก็เป็นฝ่ายหมดความอดทนก่อน เขาเอื้อมมือไปดึงมือเรียวเล็กของอีกฝ่ายมาแบออกตรงหน้าแล้วจึงวางกล่องนั้นลง
เมื่อเห็นว่าของขวัญถูกส่งถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัยแล้ว เขาจึงดึงมือออกมา...และพบว่ามีน้ำแข็งเกาะพราวราวกับว่ามือของเขากลายเป็นไม้ไอติมไปแล้วอย่างไรอย่างนั้นล่ะ แจ็คไม่ได้ต่อว่าอะไร เพียงแค่สะบัดๆ เกล็ดน้ำแข็งที่เกาะอยู่ออกพลางบ่นงึมงัม “เจ้านี่ช่างขี้ตกใจนักเชียว”
ทำไมกันนะ กับอีแค่ถูกเขาจับมือมันน่ากลัวมากขนาดนั้นเลยหรือไง เธอควรจะดีใจถึงจะถูก เขาเป็นถึงแจ็คฟรอสต์เชียวนะ! แจ็คฟรอสต์น่ะ!
“ใครว่าเราตกใจ” แม้หลักฐานจะเห็นอยู่ทนโท่คาตา แต่เอลซ่าก็ไม่มีทางยอมรับหรอก อีกอย่างการที่เธอตกใจก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกตรงไหน ลองว่ามีผู้ชายแปลกหน้าบุกรุกถึงห้องนอน สลายพลังน้ำแข็งให้กลายเป็นปุยหิมะ แล้วก็ลอยได้มายืนอยู่ตรงหน้าดูสิ ดังนั้นการที่เธอจะตกใจจึงนับว่าเป็นเรื่องที่ปกติสุดๆ เลยต่างหากล่ะ! กับอีแค่ของขวัญกล่องเดียวอย่าคิดว่าจะทำให้เธอลืมเรื่องที่เขาทำก่อนหน้านี้ได้นะ
แจ็คส่ายหน้าราวกับผู้ใหญ่ที่กำลังเอือมระอา แต่ก็ไม่ได้สานต่อบทสนทนาที่มีวี่แววว่าจะจบลงด้วยการที่เธอคงจะเสกน้ำแข็งออกมาแทงพุงเขาอีก
“เจ้าชื่ออะไร สาวน้อย” เปลี่ยนเป็นเอ่ยถามแทน
“เราไม่ใช่สาวน้อย ชื่อของเราคือเอลซ่า เราเป็นราชินีแห่งอาณาจักรนี้ และเจ้าก็ควรรู้ไว้เสียด้วยว่าไม่ควรเข้าห้องของสุภาพาตรีสุ่มสี่สุ่มห้า!
ถามคำเดียว...เล่นตอบเสียไม่เหลือที่ให้เขาสานต่อเลย แจ็คหัวเราะอย่างไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกสักนิด เขาบินไปทางหน้าต่าง กระตุกผ้าม่านหนาหนักให้เปิดออกกว้างจนแสงจันทร์ทอลอดเข้ามา พอทำเช่นนั้นแล้ว ภายในห้องก็พลันสว่างไสวขึ้นทันตา ละอองหิมะที่โปรยปรายภายในห้องสะท้อนกับแสงจันทร์  ก่อเกิดประกายระยิบระยับอันอ่อนละมุน
แจ็คมองร่างที่ก้าวเข้ามา...วินาทีนั้น...ถ้าดวงจันทร์ไม่เรียกเขาขึ้นมาเสียก่อน เขาก็ไม่แน่ใจเลยว่าตนเองจะหักห้ามใจไม่ให้เผลอลักพาตัวเธอไปได้มั้ย...
แต่ขืนทำแบบนั้นล่ะก็...จากนี้ไปผู้คนคงเล่าขานตำนานบทใหม่ของแจ็คฟรอสต์กันว่าเป็นปิศาจที่ออกมาลักพาตัวเด็กๆ แหง อึ๋ย ไม่ต้องคิดไปไกลถึงขั้นนั้นหรอก เอาเป็นว่าเขาจะมีชีวิตอยู่รอดกลายเป็นตำนานบทใหม่ได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย อย่าลืมสิว่า...โลกนี้ยังคงมีผู้พิทักษ์คนอื่นๆ นอกจากเขาอยู่อีก แค่คิดว่าต้องกลายเป็นศัตรูกับพวกนั้นแจ็คก็ปวดหัวจะแย่ เขาจึงได้แต่ทำหน้ามุ่ยใส่ดวงจันทร์ ตอบอยู่ในใจว่า รู้หรอกน่า ข้าไม่ทำอะไรโง่ๆ หรอก
เห็นชายแปลกหน้าทำปากขมุบขมิบ ถลึงตาใส่ดวงจันทร์แล้ว...เอลซ่าก็หยุดฝีเท้าที่กำลังจะก้าวเข้าไปใกล้บานหน้าต่างในทันที แต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะวิ่งหนีออกไปเรียกทหารหรือจะตะครุบตัวเขาไว้เอง ชายคนนั้นก็หันหน้ากลับมากะทันหัน ทำเอาเธอเกือบเก็บอาการสะดุ้งเอาไว้แทบไม่ทัน
“ข้าชื่อแจ็ค แจ็คฟรอสต์ จำเอาไว้นะ แล้วปีหน้าข้าจะมา!” แจ็ค...เอาล่ะ ถึงตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าเขาชื่อแจ็ค
แจ็คโบกมือลา แล้วร่างของเขาก็กระโดดออกไปจากหน้าต่าง เขาไม่ได้ลอยขึ้น หากทว่าดิ่งวูบลงไปจนหญิงสาวตกใจ ร่างบอบบางถลาเข้าไปเกาะขอบหน้าต่างมองพื้นเบื้องล่างด้วยอาการกลัวๆ...กลัวว่าจะเห็นใครบางคนนอนเป็นศพอยู่หน้าพระราชวังของเธอ
หากทว่ายังไม่ทันจะได้กวาดตามองดู ร่างหนึ่งก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมเสียงที่แกล้งทำให้เธอขวัญหาย ...ร่างนั้นเป็นเงามุ่งหน้าไปสู่ดวงจันทร์ การกระทำบางอย่างของเขาเหมือนกับซานตาคลอสก็จริงอยู่ แต่...
“เห็นไหม เจ้าโกหก เจ้าไม่ใช่ซานตาคลอสเสียหน่อย! แจ็คฟรอสต์!
อ๊ะ ลืมตัว
แจ็คหัวเราะ
ให้ตาย แม่สาวน้อยนั่นเป็น เด็ก’ ที่น่ารักที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมาเลย!
เสียงหัวเราะของเขาดังไปทั่วเอเรนเดลล์ ชาวบ้านเงี่ยหูฟังเสียงสายลมที่แลดูจะคึกคักเป็นพิเศษในค่ำคืนนี้ บ้างก็ลุกขึ้นมาเดินโซเซอย่างงัวเงียจะดึงบานหน้าต่างชั้นนอกปิดกั้นเสียงลม หากทว่าเมื่อเอื้อมมือออกไปและเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์แล้ว
...สิ่งที่เห็นก็เป็นยิ่งกว่าความสวยงาม...
“...อ๊ะ...หิมะ หิมะแรกตกแล้ว




---END---



---แถม---
ดวงตาสีฟ้าทอดมองออกไปนอกบานหน้าต่าง เงาร่างที่ลอยผ่านดวงจันทร์กลมโตจางหายไปแล้ว “แจ็คฟรอสต์...?” ริมฝีปากเอ่ยพึมพำแผ่วเบา
หญิงสาวเอนร่างพิงกำแพง อันที่จริงแล้วเธอควรปิดม่านแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงให้เรียบร้อย หากทว่าค่ำคืนนี้สวยงามเกินกว่าจะทำเช่นนั้นได้ มือเรียวยกขึ้นปิดริมฝีปากที่หาวอย่างง่วงงุน เปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลง
แล้วเธอก็หลับไป...พร้อมทั้งความรู้สึกเฝ้ารอให้คริสมาสต์ปีหน้ามาถึงอย่างจดจ่อไม่รู้ตัว...







++++






ความจริงตอนแถมมียาวกว่านี้...แต่อยากพรูฟต่ออีกหน่อย XD แฮะๆ
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ล่วงหน้าเช่นเคยนะคะ *โค้ง* 
#exteenปิดปรับปรุงวันที่จะอัพฟิคทู๊กที...